#rookii
1 นาทีในการอ่าน
30 May
30May

Review: Nintendo Sound Clock “Alarmo”นาฬิกาปลุกที่ทำให้การตื่นเป็นเรื่องสนุก.นาฬิกาปลุกที่ปู่เปิดตัวมาในช่วงที่คนรอ Switch 2 ซึ่งสารภาพตามตรงครั้งแรกๆ คือโมโหมาก เปิดตัวนาฬิกาปลุกไรตอนนี้ฟะ! แต่พอดูข้อมูล ส่องไปส่องมา เห้ย เริ่มเคลิ้ม กลายเป็นอยากได้เลย 55 และในระหว่างนั้นก็ได้มีการเปิดตัว Nintendo Authorized Store ก็มีความคาดหวังมาตลอดว่า เห้ย ถ้าเราจะซื้อ Alarmo มันก็ต้องได้ซื้อที่นี่แหละ!.และแล้วในที่สุดวันนี้ก็มาถึง ได้จับของจริง ได้ลองใช้มา 2 วันเต็มๆ ซึ่งมีอะไรที่อยากพูดถึง Alarmo นี้ค่อนข้างเยอะ จึงจะขอแบ่งรีวิวออกเป็น 2 ส่วนคือ 

1. ส่วนของ Package และ Hardware ภายนอก และ 

2. ส่วนของ Software และการใช้งาน ครับ จากนั้นจะมารวบรวมและอธิบายประสบการณ์และความเห็นเกี่ยวกับอุปกรณ์นี้ 

- - - - - - - - - - - - - - - - -

1. ส่วนของ Package และ Hardware ภายนอก.สารภาพตามตรง ตอนแรกคิดเอาไว้ว่าตัวเครื่องและตัวกล่องจะใหญ่กว่านี้พอสมควร แต่พอเห็นของจริงแล้วคือแบบ โห มันเล็ก กระทัดรัด และมีน้ำหนักเบากว่าที่ประเมิณไว้ ซึ่งตัวกล่องก็ค่อนข้างเรียบง่าย ไม่ได้มีรายละเอียดการแนะนำอะไรมาก ผิดไปจาก Hardware อื่นๆ ของปู่ ซึ่งสิ่งที่จะได้มาในกล่องคือ Alarmo และสาย USB ซึ่งเป็นสายแบบ “Type A” to “Type C” แล้วก็ Manual ใบเล็กๆ บางๆ แค่นี้เลยหมดกล่องแล้ว สร้างความสงสัยมากว่า เห้ย ทำไมมันดูให้มาน้อยๆ คลีนๆ การใช้งานก็แทบไม่มีบอกเลย ระหว่างนั้นก็เก็บความสงสัยเอาไว้ตลอด.แต่แรกเริ่มที่ได้สัมผัสตัว Alarmo ก็รู้สึกหลงรักน้องทันทีครับ ไซส์น้องคือกำลังเหมาะมือมาก น้ำหนักที่ไม่ได้หนักมากหรือเบาหวิว ผิวพลาสติกที่ทำมาแบบผิวด้าน ดีไซน์โค้งมนไปทุกจุด ด้านหน้านาฬิกาก็อย่างที่เคยเห็นๆ กันว่ามันกลม และมีหน้าจอ LCD แต่ว่าด้านหลังมันก็เป็นมนๆ กลมๆ ด้วยเหมือนกัน แถมมีตุ่มขาตั้งเล็กๆ กลมๆ สีเทาๆ ด้านหลังอีก โด้ย มันดูปุ๊กปิ๊กมากๆ นอกจากนี้มีปุ่ม Back และ Notification อยู่ที่ขอบด้านหน้า และมีปุ่ม Dial เป็นเหมือนเม็ดกลมๆ ขาวๆ ไซส์ใหญ่กว่าชาวบ้าน อันนี้จะเอาไว้หมุนๆ เลือกตัวเลือก และกดลงไปได้เพื่อทำการตกลง แถมยังมีไฟ RGB เพื่อแสดงผลตามสถานการณ์ต่างๆ

.

ทั้งหมดในส่วนของภายนอกคือมีแค่นี้เลย ยังไม่รวมลำโพงที่ซ่อนอยู่ที่ด้านหลัง ซึ่งโดยรวมเห็นแล้วนอกจากความน่ารักเกินพิกัด ก็ดูแล้วว่าน่าจะเป็นอุปกรณ์ที่มีความแข็งแรงคงทนใช้ได้ น่าจะรองรับทั้งแรงกดแรงตบจากอารมณ์ผู้ใช้งานที่ต้องตื่นได้ดีเลย แต่แรงเขวี้ยง…อันนี้ไม่รับประกันว่าจะทนได้หรือเปล่า…

- - - - - - - - - - - - - - - - -

2. ส่วนของ Software และการใช้งาน.หลังจากนี้ก็ได้จัดแจงเสียบสาย USB เพื่อเริ่มใช้งาน โดยเมื่อเสียบสาย ตัวเครื่องก็เปิดเองอัตโนมัติและจะพาเราเข้าไปสู่การตั้งค่าต่างๆ ของเครื่อง เช่นภาษาของเครื่อง, Region ของเครื่องที่เราต้องการเลือก, Time Zone ต่างๆ และการตั้งค่าเวลาพื้นฐาน (ภาษาและ Region เครื่องไม่มีไทยนะครับ) โดยทุกส่วนสามารถมา edit ตั้งค่าทั้งหมดทีหลังได้ รวมถึงการรวมถึงการเชื่อมต่อกับ Wifi และ Link กับ Nintendo Account ด้วย

.

ในส่วนของการตั้งค่านี้ ตัวเครื่องจะแนะนำการใช้ปุ่มต่างๆ ที่มีด้วย โดยการกดหลักๆ ก็จะใช้ตัวปุ่ม Dial สีขาวอันใหญ่เป็นหลัก ในการหมุนๆ เลือกตัวเลือกและกดลงไปเพื่อทำการตกลง ซึ่งก็ค่อนข้างเรียบง่าย ทำเข้าใจได้ง่าย ไม่ยุ่งยาก

.

จากนั้นตัวเครื่องก็จะพาไปแนะนำส่วนของการตั้งค่าการใช้งานที่จะละเอียดและมีขั้นตอนเยอะหน่อย ทั้งการปรับระดับความดังของเสียง การทดสอบเซนเซอร์จับความเคลื่อนไหว การตั้งค่าระยะของการวางนาฬิกาเพื่อความแม่นยำ ซึ่้งก็ตั้งได้ละเอียดเลยว่าเตียงเราไซส์ไหน เราจะวาง Alarmo ไว้จุดไหน ห่างจากเตียงเราเท่าไหร่

.

นอกจากนี้ตัวเครื่องก็จะพาเราไปสอนการตั้งค่านาฬิกาปลุก การเลือกธีมที่จะใช้ปลุก และการทำงานในการปลุกเราของ Alarmo และเซนเซอร์จะทำงานตอนที่เราลุกจากเตียงและกิจกรรมต่างๆ รวมถึงพาไปแนะนำระบบและเมนูอื่นๆ อีกเช่นการเปลี่ยนธีมนาฬิกาปลุก การตั้งค่าเสียง Sleepy Sound ที่ตัวเครื่องจะบรรเลงเพลงเบาๆ ตามช่วงเวลาที่เราตั้งค่า เพื่อให้เราหลับง่ายขึ้น หรือการตั้งค่า Hourly Chime ที่ตัวนาฬิกาจะส่งเสียงแจ้งเตือนในทุกๆ ต้นชั่วโมงของแต่ละวัน เผื่อใครที่ใช้นาฬิกานี้นอกจากบนหัวเตียงด้วย (เช่นตัวแอดเองที่ใช้นาฬิกานี้ที่หน้าคอม) 

.

นอกจากนี้ปุ่ม Notification ก็ใช้สำหรับดู Stat ต่างๆ ของเราที่นาฬิกาบันทึกเอาไว้ได้ เช่นข้อมูลการนอนของเรา ข้อมูลการตื่น และกราฟการขยับตัวของเราที่เกิดขึ้นบนเตียง ซึ่งพอจบการแนะนำนี้ที่เหลือก็จะเป็นการใช้งานจริงเต็มรูปแบบละ ก็ปรับแต่งตั้งค่าต่างๆ ตามความเหมาะสมของเราได้เลย

.

การปลุกของ Alarmo (แบบ Default) จะไม่ได้เป็นการปลุกที่เสียงดังหูแตกจนเราตื่น แต่จะค่อยๆ ปลุกเราด้วยเสียงที่นุ่มนวนและจะค่อยๆ ดังขึ้นเรื่อยๆ จากนั้นก็จะเปลี่ยนเป็นเสียงที่ดังรุนแรงและกระตุ้นให้เราตื่น ยิ่งเราตื่นช้า เสียงก็จะยิ่งดัง ยิ่งกดดันให้เราตื่นนั่นเอง ซึ่งถ้าใครต้องการจะตื่นตามเวลาเป๊ะๆ แนะนำให้ตั้งค่าเวลาก่อนเวลาตื่นจริงซัก 1-2 นาที ก็จะทำให้เราตื่นตามเวลาพอดี

- - - - - - - - - - - - - - - - -
//รีวิวส่วนที่ถูกใจชอบมาก

ㆍ ตัวเครื่องเบา กระทัดรัด ดีไซน์สวย น่ารัก เหมาะเป็นเครื่องประดับตกแต่งตามธีมมาก

ㆍ ปุ่มต่างๆ กดถนัด จับถนัด ดูแข็งแรง

ㆍ ปุ่ม Dial สีขาวคือพระเอกจริงๆ

ㆍ มีการใช้งานง่าย ทุกอย่าง Simple เข้าใจง่าย จับครั้งเดียวก็ใช้งานเป็นเลย ไกด์ของตัวเครื่องแนะนำได้ดี

ㆍ ตัวเครื่องทำงานไวมาก ไม่อืด ไม่ช้า เข้าถึงเมนูต่างๆ ได้รวดเร็วด้วยปุ่ม Dial เท่านั้น

ㆍ หน้าจอสีสวยสดสว่างดีมาก และมีปรับค่าความสว่างตามแสงในห้องได้

ㆍ เสียงของเครื่องมีมิติดีเกิดคาด และตั้งค่าให้เสียงดังมากๆ ได้ (ปรับเพิ่มลดได้)

ㆍ Sound Fx ในการใช้งานเครื่องคือเสียงเพราะ น่าจดจำ ตามสไตล์ Nintendo เลย

ㆍ หน้าปัดโชว์รายละเอียดวันเดือนเวลาครบถ้วน เหมาะใช้เป็นนาฬิกาปกติด้วย

ㆍ Animation ตัวละครเหมือนยกมาจากเกมเลย ละเอียดและมี Reaction ต่างๆ ตามกิจกรรมของผู้ใช้งานหลายรูปแบบ

ㆍ มีอัพเดทธีมใหม่มาเพิ่มให้ใช้งานกันด้วย
- - - - - - - - - - - - - - - - -

//รีวิวส่วนที่รู้สึกว่าน่าเสียดาย

ㆍ เป็นอุปกรณ์ที่ออกแบบมาไว้สำหรับใช้คนเดียว ถ้าใช้รูปแบบปลุกแบบ Sensor และเก็บข้อมูลการนอน แต่ถ้าใช้แบบกดเพื่อหยุด หรือไม่เอาข้อมูลการนอน สามารถใช้ได้ปกติ

ㆍ ตัวเครื่องไม่มี Battery การใช้งานจะต้องเสียบสายไว้ตลอด ทำให้เอาไปวางในบางจุดได้ไม่สะดวก

ㆍ ไม่มีการโชว์สภาพอากาศ สำหรับคนที่ชอบดู Forecast

ㆍ การดู Stat ต่างๆ ต้องดูจากนาฬิกาเท่านั้น ไม่มีการเชื่อมต่อกับ App หรือเว็บอะไรเพื่อเข้าถึงข้อมูลนี้เลย

ㆍ หน้าจอ LCD จะเป็นสี่เหลี่ยม ไม่ได้กลมตามหน้าปัด ทำให้ไม่ได้เห็นลูกเล่นการแสดงผลที่หวือหวากว่านี้

ㆍ การตั้งค่าเสียงปลุก จะพรีวิวฟังเสียงก่อนไม่ได้ว่าจะเป็นเสียงแบบไหน ทำให้ไม่รู้เลยว่าจะปลุกเราด้วยเสียงและเพลงอะไร

ㆍ สามารถตั้งปลุกได้แค่เพียง 1 การตั้งค่า ทำให้ไม่สามารถทำการปลุกได้มากกว่า 1 ครั้งได้ในแต่ละวัน

ㆍ เลือกแยกธีมหน้านาฬิกากับเสียงปลุกไม่ได้ ถ้าเลือกเสียงปลุกอะไร หน้าจอก็จะเป็นธีมจากเกมนั้นเท่านั้น

ㆍ การต่อ WiFi ครั้งแรกลำบากนิดหน่อย เพราะการคีย์ตัวหนังสือต้องใช้การหมุนปุ่ม Dial เอา ซึ่งถ้าใครรหัสยาว ก็หมุนกันมันส์…

ㆍ ไม่มี Region ไทย…

- - - - - - - - - - - - - - - - -

สรุป:ถึงแม้ว่าหลายคนอาจจะมองว่าสำหรับนาฬิกาปลุกแล้ว Alarmo จะแพงไปหรือเปล่า คำตอบก็คือแพงไปจริงครับ ถ้ามอว่ามันคือแค่นาฬิกาปลุก แต่ถ้ามองว่ามันคือนาฬิกาปลุกที่จะมีลูกเล่นการปลุกด้วยตัวละครและเพลงและเสียงจากเกมที่เราชอบ มาปลุกด้วยเพลงและวิธีการปลุกที่ละมุนละม่อมแต่ก็พร้อมที่จะเกรี้ยวกราดหากเรายังไม่ยอมตื่น ซึ่งจากตัวละครน่ารักๆ ก็จะกลายเป็นตัวละครโหดๆ ของเกมนั้นๆ ได้ คือว่าง่ายๆ มองได้เลยว่านี่มันคือเครื่องเกมที่เล่นด้วยการตื่นนอนของเรา

.

รวมถึงด้านการออกแบบ การเข้าถึงง่าย ใช้งานง่าย อาจจะงงหน่อยครั้งแรก แต่ถ้าเมื่อไหร่ตั้งค่าจนลงตัวแล้ว เราจะตกหลุมให้กับความน่ารักของตัวเครื่องนี้แน่นอน แถมนอกจากใช้งานในการปลุกเราแล้ว เรายังเอามันมาเป็นของแต่งโต๊ะทำงานเราแบบน่ารักๆ ได้อีก ทำให้เรื่องราคานี้บอกเลยว่าไม่ใช่ประเด็นเลยครับถ้าคุณชอบอะไรแบบนี้จริงๆ (แบบแอด 55)

- - - - - - - - - - - - - - - - -

คะแนน 8.5/10Reviewer: #rookiiข้อมูลภาษาไทย: www.nintendo.com/th/hardware/alarmo/index.html#LOVENINReview #Nintendo #Alarmo


ความคิดเห็น
* อีเมลจะไม่ถูกเผยแพร่บนเว็บไซต์