บูจัง
1 นาทีในการอ่าน
07 Jul
07Jul

Cyberpunk 2077 บน Nintendo Switch 2 เปิดยุคใหม่ของเครื่องเกมจากปู่ด้วยเกม 3rd-party ระดับ AAA ที่ไม่ได้แค่ลงเพื่อให้ลงได้ เอาเงินละก็หนีไป แต่เป็น ลงแล้ว เฮ้ย มันดีกว่าที่คิด!! ทำได้ขนาดนี้เลยเหรอวะ !! และบอกเลย ใช้ทุกฟีเจอร์ของ Switch 2 ครบกว่าเกมจากปู่อีก !

.

ถ้าพูดถึงเกมนี้ (ณ ปัจจุบัน) Cyberpunk 2077 เป็นเกมพื้นฐานสำหรับการเทสเครื่อง เทสการ์ดจอ ทำ benchmark ทดสอบกราฟฟิก ฯลฯ ซึ่ง ณ ตอนนี้ก็มาลงบน Switch2 แล้ว และก็เคยสัญญาว่าพอมาลง จะกดมาเพื่อดันเครื่อง Switch 2 ของเราไปให้สุด(ในตอนแรก) แล้วดูว่าจะหยุดอยู่ที่ไหน จะหยุดที่เส้นชัย หรือจะตายตั้งแต่เริ่ม มาดูกันครับ

.

จากประสบการณ์ที่ผ่านๆ มาตลอดของแอด เกมที่เป็นชุดแรกของเครื่องเปิดตัวใหม่ จะเป็นเกมที่ยังรีดประสิทธิภาพของเครื่องยังไม่สุด หรือ ยังใช้ฟีเจอร์เครื่องยังไม่ครบ หรือ ผู้พัฒนายังไม่คุ้นกับเครื่องนี้จนทำให้เกมออกมาไม่ได้ดีมาก แต่ CD Projekt RED ในรอบนี้บอกเลยว่าทำสุด ทำดี ทำออกมาได้ถึงจริงๆ โดยเฉพาะโหมด handheld พกพา ที่เครื่องกินไฟแค่ 10W และเล่นได้มากกว่า 2 ชั่วโมง แต่ทำภาพได้ขนาดนี้ รวมไปถึงเปิดปุ๊บติดปั๊บเล่นต่อได้เลย ก็แอบมองไปที่เครื่อง hhpc ที่วางอยู่ข้างๆ ด้วยหางตาหน่อยๆเหมือนกันนะ 555

.

ด้าน Performance หรือประสิทธิภาพ

.

บอกเลยว่ากราฟฟิก ภาพ เฟรม ออกมาได้แบบภาพสวยใช้ได้เลยล่ะ ไม่ได้แค่พอมีพอกิน ไม่ได้แค่ลงแค่ให้รันได้ ไม่ว่าจะเป็น ภาพ แสง เงา ความละเอียด สวยว่ะ ไม่นึกว่าจะทำได้ขนาดนี้

.

ตัวเกมมีให้เลือกทั้งหมดรวม 4 โหมดด้วยกัน คือ performance/quality ของทั้งแบบ Docked และ Portable โดยแต่ละโหมดจะมี resolution ตามนี้

.

Portable - Performance > 720p 40FPS

Portable - Quality > 810p 30FPS

Docked - Performance > 1080p 40FPS

Docked - Quality > 1080p 30FPS

.

โดยตัว resolution ทั้งหมดจะแสดงผลตามที่บอกข้างบนด้วย DLSS อัพสเกลขึ้นมาอัตโนมัติ ทำให้เครื่องสามารถรีดภาพออกมาได้ดีกว่าการทำภาพตรงๆ ซึ่งแนะนำว่าตอนเล่น portable แนะนำว่าให้เล่น performance 40fps เพราะเราจะได้ใช้ประโยชน์จาก VRR ของจอ Switch 2 ที่ไม่ว่าจะเฟรมแค่ไหนก็จะแสดงผลได้เนียนตา ไม่ต้องใช้เฟรม 30 60 120 ตามสูตรเก่าแล้ว แต่สำหรับโหมด docked แนะนำว่าให้เปิด quality ไปเลยดีกว่าเพราะตอนนี้ยังไม่มี VRR ไปที่ทีวี ทำให้ถึงจะแสดงผลที่ 40fps ก็แทบจะไม่ต่างกับ 30fps ก็เล่น quality ภาพสวยไปเลยดีกว่า

.

ส่วนสำหรับเฟรม "เกือบทั้งเกม" จะทำเฟรมได้ค่อนข้างดี ไม่มีหล่น ยกเว้นโซน Dogtown ที่เป็นโซนใหม่ของภาคเสริม Phantom Liberty ที่เป็นโซนวัดใจที่ไม่ว่าจะเครื่องไหนก็จะมีเฟรมหล่นเฟรมร่วงให้ได้เห็นเหมือนกัน เพราะสิ่งของในโซนนี้เยอะมากกก ละเอียดกว่าโซนเก่าเยอะ ภาคเสริม และ โซนนี้ เลยไม่สามารถรันได้ในเครื่อง gen เก่าไป จนทำให้ภาคเสริมไม่ได้ลงในเครื่อง PS4 XboxOne ไปโดยปริยาย

.

ซึ่งในคลิปเปรียบเทียบ (มีแปะลิ้งไว้ในคอมเม้น) ก็ค่อนข้างเป็นข้อพิสูจน์ว่า Switch 2 มีความแรง เกือบๆ จะเทียบเท่า Xbox Series S เลย และก็แรงกว่าตัว เครื่อง gen เก่าค่อนข้างมาก ทำให้เรากะประมาณพลังของเจ้าเครื่องใหม่ในมือของเราได้นะว่าอยู่ประมาณไหน

- - - - - - - - - - - -

สิ่งที่เพิ่มมาบน Switch 2

.

การควบคุมมีเพิ่มมาครบทุกสูตร ไม่ว่าจะเป็น การเล็งแบบ Gyro ด้วยตัวเครื่องเอง หรือด้วยจอยโปร หรือด้วยจอยคอนแบบแยกมือ ไม่ว่าจะเป็น การควบคุมแบบ Motion Gesture ทำท่าทางเพื่อรีโหลด สลับปืน ฟัน ฯลฯและยังมีการรองรับการควบคุมด้วย Mouse Mode ใหม่ของ Joy-Con2 ซึ่งสลับซ้ายขวาได้ตามใจ หรือจะเสียบ Mouse / Keyboard ของคอม เล่นแบบคอมแท้ๆไปเลย ก็ยังได้! เอาเป็นว่ามาครบทุกรูปแบบจริงๆ

.

ซึ่งการควบคุมการเล็งด้วย gyro บอกเลยว่า ดีงาม และมีการตั้งค่าได้ละเอียดมากกกก แนะนำว่าให้ปรับเป็นการควบคุมแบบ "สมดุล" นะ จะเล็งง่าย และ ไม่ส่ายจนมึนหัวแบบเกมที่ใช้ gyro อื่นๆ
.

แต่ส่วนการใช้ motion gesture ก็แค่ขำขำแหละ 55 ใช้จริงไม่เวิร์คเท่าไร รวมไปถึง mouse mode ของ Joy-Con2 ที่ ก็พอไหว แต่เมื่อยมือ เมื่อยแขน และ ควบคุมมือขวายาก เพราะต้องทั้งเลื่อนเม้าส์ ทั้งยิง ทั้งกดปุ่มเต็มไปหมด มึน...

ส่วนใครจะต่อ keyboard/mouse เต็มนั้น ก็คิดซะว่าลองของ สบายใจก็จัดไปครับ อาจจะงงๆ ความรู้สึกนิดๆ 55

- - - - - - - - - - - -
เกมเพลที่เพิ่มเติมมาใน Ultimate Edition

.

ใน Ultimate Edition นี้ได้รวมตัว DLC เสริม Phantom Liberty และโซน Dogtown แบบครบๆ จบๆ ด้วยเลย ซื้อครั้งเดียว เล่นได้ครบทุกอย่างที่มีแถมว่าใครซื้อแบบตลับ ทุกอย่างรวมในตลับให้ ไม่มีโหลดเพิ่มด้วยนะ ไม่ใช่ Game Key Card แต่เป็นเกมเต็มจบเลย

.

รวมไปถึงภาษาไทย ที่มีแปลให้แบบครบถ้วน 100% ทั้งบทสนทนา สกิล เมนู ไอเท็ม ฯลฯ แต่ต้องบอกว่าพวกบันทึกทั้งหลาย อาจจะอ่านแล้วดูภาษาแปลกๆ หน่อยนึงนะ แต่พวกคอนเท้นใหม่หลังอัพเดท Phantom Liberty ได้มีการแก้ไข เพิ่มการแปลที่ดีขึ้นไปพอควรแล้ว

.

ถ้าใครเคยเล่นก่อนจะมีอัพเดทตั้งแต่เกมออกแรกๆ แล้วค่อยมาซื้อบน Switch 2 บอกเลยว่าตัวเกมมีการปรับเปลี่ยนไปเยอะมาก ไอเท็ม สกิล บิ้วต่างๆ ที่ทำไว้แล้ว ถ้าจะโอนเซพเกมผ่านคลาวจากเครื่องอื่นมา รับรองว่า งง! มันเปล่ยนเป็นคนละเกมเลย รูปแบบการอัพ ผังสกิล ปรับตัวกันไปพักใหญ่ แต่โดยรวมดีกว่าเดิมนะ มีระบบ เกมเพล มิชชั่นต่าง ๆ มาเพิ่มจำนวนมากเลยล่ะ คุ้ม บอกตรง

------------

ข้อดี

- ประสบการการเล่นเกม Cyberpunk แบบ portable ที่ดีที่สุด (จากบทสัมฯของผู้พัฒนาเอง)

- DLC และอัพเดทใหม่ ทำให้เกมเป็น version "สมบูรณ์"จริง ๆ มีคอนเทนต์เยอะมาก

- การเล็งด้วย gyro ที่อิสระ และ ปรับแต่งได้ดีมาก

- กราฟฟิกสวย แม้ในโหมดพกพา ในน้ำหนักเบา และแบตอยู่ได้ 2+ชั่วโมง

- ครบจบในตลับเดียว แบบไม่ต้องโหลดอะไรเพิ่ม และไม่ใช่ Game Key Card

.

ข้อเสีย

- ทำเฟรมได้ที่แค่ 40-30fps และยังไม่มี framegen

- ในโซน Dogtown ยังมีเฟมร่วง เฟรมหน่วงอยู่ แต่ไม่ได้ถึงกับเล่นไม่ได้ พอรับไหว

- motion gesture แค่กิมมิก ใช้ไม่ได้จริง ทำมาขำขำแหละ

- สงสารเครื่อง พัดลมดังเชียว

.

------------

สรุป:

ใครเป็นชาว Nightcity ที่ยังไม่เคยเล่น DLC Phantom Liberty หรือใครไม่เคยเล่นเกมนี้เลย และอยากจะมาลองบน Switch 2 แนะนำเลยครับ CD Projekt RED พอร์ทเองไม่ได้ให้คนอื่นทำ และทำมาได้ดีมากจริงๆ โดยเฉพาะแบบ portable ไม่ผิดหวัง และ เป็นมาตรฐานของเกม AAA บน Switch 2 ที่ดีต่อจากนี้ไปครับ 

.

คะแนน: 9/10

Reviewer: บูจัง

#LoveninReview #NintendoSwitch2 #Cyberpunk2077

ความคิดเห็น
* อีเมลจะไม่ถูกเผยแพร่บนเว็บไซต์